พระยอดขุนพล พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงยามหาว่านนิลกาฬ หลวงปู่สาย วัดดอนกระต่ายทอง

หลวงปู่สาย ขนฺติโก พระเกจิอาจารย์อาคมขลังดินแดนภาคกลางผู้สืบทอดสายวิทยาคมของวัดนก จ.อ่างทอง เรียนรู้ด้านอักขระเลขยันต์และว่านสมุนไพรจากหลวงปู่เฟื่องและพระอาจารย์ปลั่ง วัดนก อ่างทอง ซึ่งเป็นศิษย์สายพุทธาคมมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท นอกจากนี้หลวงปู่ท่านยังได้ศึกษาวิชาโดยตรงกับ หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว จ.สิงห์บุรี

พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงปู่สาย ขันติโก” วัดดอนกระต่ายทอง อ.ไชโย จ.อ่างทอง มีชื่อเสียงในการเพ่งกสิณ พลังจิต ในการปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ได้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้เคารพศรัทธา บ่อยครั้งที่ท่านได้เพ่งกสิณบรรจุพลัง จนไฟลุกไหม้จากมือวิ่งไปตามสายศีล ในรอบมณฑลพิธีโดยที่สิ่งของอื่นๆ อยู่ในสภาพปกติ ซึ่งน่าจะไหม้ไฟไปด้วย มีประชาชนที่ร่วมพิธีได้เรียนถามหลวงปู่สายว่า เกิดอะไรขึ้นท่านบอกว่า “บรรจุกสิณธาตุไฟแรงไปหน่อย” หลังเสร็จพิธี ประชาชนต่างเช่าบูชาวัตถุมงคลรุ่นนั้นไปจนหมด

สำหรับพระยอดขุนพลขนฺติโก เนื้อผงยามหาว่านนิลกาฬมีพุทธคุณโดดเด่นในเรื่องอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอำนาจ มหาอุด แคล้วคลาด เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมกันแก้อาถรรพ์ต่างๆ เสริมอำนาจวาสนาบารมีให้ความสวัสดิพิพัฒนมงคลรุ่งโรจน์โชติช่วงแก่ชีวิต เสริมตบะเดชะเสริมสง่าราศีเป็นมหานิยมแก่ผู้คนที่ได้พบเห็นเป็นมหาอำนาจจึง เหมาะสำหรับผู้นำให้ลูกน้องบริวารเคารพยำเกรงนอกจากนี้ยังช่วยขจัดปัดเป่า อุปสรรคความขัดข้องทั้งปวงมีชัยชนะเหนือเหล่าศัตรูด้วยนิมิตมงคลนาม “ไชโย” อันหมายถึงชัยชนะนั่นเอง

ผงยามหาว่านนิลกาฬ ตำรับดั้งเดิมเป็นของหลวงปู่เฟื่อง ผู้สร้างสมเด็จวัดนก จังหวัดอ่างทองอันลือลั่นในปัจจุบัน ยากจะหาผู้รู้ บ้างก็ว่าสาบสูญไปแล้วแต่ความจริง แล้วตำราผงยามหาว่านนิลกาฬนี้ตกทอดมายังหลวงปู่สาย ซึ่งขั้นตอนการทำนั้นก็ยุ่งยาก พิสดารมากมาย โดยจะต้องหาว่านสดๆ 108 ชนิดอันเป็นพญาว่าน  5 จำพวก ได้แก่ คงกระพันชาตรี, มหาอุตม์, มหาเสน่ห์มหานิยม, กำบังและกายสิทธิ์ ให้ครบถ้วนตามตำราโดยจะต้องทำการรดด้วยน้ำมนต์ที่เสกไว้โดยเฉพาะสำหรับปลุกว่านอีก 49 วันเพื่อปลุกว่านให้เป็นตัวก่อนจะทำการกู้ว่านพลีว่านมาให้ครบเบญจขันธ์ว่านคือ ราก, ต้น, ใบ,ดอก และผล ต้องไม่ให้ว่านรู้ตัว ใช้โจโรฤกษ์หรือเพชฆาตฤกษ์ป้องกันไม่ให้เพทยาธร หรือเทวดาที่รักษาว่านรู้ตัว เป็นการผูกตัวผูกตนให้อยู่กับว่านแบบฉับพลัน

จากนั้นนำมาผสมกับ ดินกลางใจเมืองที่ชื่อเป็นมงคล, ดินโป่ง 9 แห่ง,ดินท่า 9 แห่ง, ดินปิดปากรูหนูรูปู 108 รู, ดินจอมปลวก 16 ชั้น 9 ยอด, รังหมาร่าปิดตาปิดหูปิดปากพระพุทธรูป, ดินสอพองนำมาปั้นเป็นแท่งเขียนอักขระเลขยันต์เรียกสูตรสนธิลบถมเป็น มหาไวย, มหาเมฆ, มหานิล, มหาดำ, สูรย์จันทร์ จนกระทั่งถึงนิพพานสูญ ลบด้วยอาการ 32 ลงใหม่เป็นผงอิติปิโส,ไตรสรณคมน์, เรียกองค์พระปลุกอาการหนุนธาตุให้ผงมารวมกันเป็นรูปองค์พระบังเกิดเป็นพุทธนิมิต จึงสำเร็จเป็นผงยา มหาว่านนิลกาฬ ที่แสนจะพิสดาร

ผงยามหาว่านนิลกาฬนี้ ในตำรากล่าวว่า